อยากคุ้มค่าต้องเปรียบเทียบ ประกันรถยนต์แบบนี้

ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับประกันรถยนต์จากแต่ละบริษัทประกันภัยนั้นมีอยู่อย่างมากมาย จนบางครั้งอาจทำให้เกิดความสับสนได้ จึงต้องใช้เวลาและค่อยๆ ศึกษาไปทีละส่วนเพื่อที่จะได้สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ และในการเปรียบเทียบ ประกัน รถยนต์เองก็มีหลักในการสังเกตอยู่เช่นกัน ดังนี้

  • พิจารณาภาพลักษณ์ของบริษัท

ในการเปรียบเทียบ ประกันรถยนต์นั้น เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของบริษัทประกันภัยที่เราเอามาเป็นตัวเลือกด้วย เพราะการสร้างภาพลักษณ์ให้ออกมาตามที่ต้องการนั้นใครก็สามารถทำได้ เราจึงต้องศึกษาเบื้องลึกเบื้องหลังว่าบริษัทประกันภัยนี้มีประสบการณ์การทำงานเป็นอย่างไร ได้รับการยอมรับและรับรองมากแค่ไหน มีชื่อเสียงในด้านที่ดีหรือแย่อย่างไร โดยเราสามารถศึกษาจากการอ่านรีวิวลูกค้ารายก่อน ที่เคยมีการซื้อขายประกันกับเจ้านี้มาแล้ว หรือเราสามารถสอบถามจากเพื่อน คนในครอบครัวที่เคยซื้อประกันให้ช่วยแนะนำบริษัทประกันภัยที่น่าเชื่อถือก็ได้ สามารถช่วยป้องกันปัญหาที่อาจตามมา ไม่ให้เราต้องเสียเวลา และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

  • พิจารณาจำนวนอู่ซ่อมของบริษัทประกันภัยนั้นๆ

การศึกษา และเปรียบเทียบ ประกันรถยนต์นั้นเราจะไม่มองข้ามจำนวนอู่ซ่อมรถที่อยู่ในเครือของบริษัท ต้องศึกษาว่ามีอู่ที่อยู่ใกล้บ้านเราหรือไม่ เพราะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเราจะได้นำรถเข้าซ่อมในอู่ที่อยู่ใกล้บ้านได้เลย สามารถช่วยให้เราประหยัดเวลาไปได้มากอีกด้วย นอกจากนี้การมีอู่ใกล้บ้านเรายังสามารถตรวจเช็คสภาพรถได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ถ้าบริษัทมีอู่ซ่อมเยอะจะทำให้เรามีตัวเลือกในการเข้าใช้บริการที่มากขึ้นอีก ไม่ต้องเสียเวลารอคิวเข้าซ่อมที่อู่เดียวด้วย

  • พิจารณาค่าเบี้ยประกัน

ราคาเบี้ยประกันนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญหลักๆ ที่เรามักจะพิจารณากันอย่างแน่นอน ในการเปรียบเทียบ ประกันรถยนต์นั้นราคาถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐาน เพราะเรามักให้ความสนใจเบี้ยประกันที่ราคาถูกกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เบี้ยประกันที่ถูกก็ใช่ว่าจะดีกับเราเสมอไปแต่ก็ใช่ว่าเบี้ยประกันที่ราคาแพงจะสามารถตอบโจทย์เราได้ดีที่สุดเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย ว่าสาเหตุที่ประกันจากบริษัทนี้มีราคาถูกคืออะไร อาจจะเพราะบริการที่ไม่ดี หรือมีการบริการที่ไม่ทั่วถึง จึงทำให้ราคาเบี้ยถูก นอกจากนี้การเลือกปรับแต่งเงื่อนไขความคุ้มครองที่จำเป็นกับเราก็ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันอีกด้วย

  • พิจารณาข้อเสนอและสิทธิพิเศษต่างๆ

ถ้าต้องการที่จะประหยัดค่าเบี้ยประกัน การพิจารณา เปรียบเทียบ ประกัน จากโปรโมชันและสิทธิพิเศษต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะโปรโมชันเหล่านี้สามารถช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากยิ่งขึ้น และโปรโมชันของแต่ละบริษัทก็จะมีความแตกต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรพิจารณาส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่แต่ละที่นำเสนอมา สามารถเลือกเอาบริษัทที่ตอบโจทย์เราได้มากที่สุดโดยเฉพาะในส่วนของเงื่อนไขความคุ้มครองแล้วจึงกลับมามองว่าส่วนลดสามารถช่วยให้เราประหยัดไปได้มากน้อยแค่ไหน เพียงเท่านี้ การซื้อประกันรถยนต์ของเราก็จะถือว่าคุ้มค่าแล้ว

  • พิจารณาคุณภาพของการบริการ

แน่นอนว่าในการ เปรียบเทียบ ประกัน นั้นเราจะต้องให้ความสำคัญกับการบริการที่บริษัทจะมอบให้แก่เราในฐานะลูกค้าด้วย เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายขึ้นมา เราคือผู้ที่ได้รับผลกระทบก็ย่อมมีความรู้สึกที่ไม่มั่นคงอยู่แล้ว บริษัทประกันภัยที่ดีจะต้องใส่ใจในส่วนนี้และช่วยเหลือคุ้มครองความเสียหายต่างๆ ของเราอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เมื่อแจ้งเคลมก็มาถึงจุดเกิดเหตุไว สามารถชี้แนะและตอบคำถามของเราเกี่ยวกับการแจ้งเคลม การเข้าซ่อมที่อู่ได้เป็นอย่างดี เป็นต้น